Print



Shisha / hookah / Baraku

       บารากุ หรือ บารากู่ คือ ชื่อเรียกอุปกรณ์การสูบยาอย่างหนึ่งที่มาจากอาหรับ มันมีรูปร่างเป็นเตาที่ดูคล้ายตะเกียงหลากสีต่อกับสายท่อที่ไว้ สำหรับสูบ ความจริงคนอาหรับเรียกสิ่งนี้ว่า “มอระกู่” ก่อนที่จะเพี้ยนไปตามสำเนียงของแต่ละภาษา การสูบบารากุนี้ถือว่าเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของชาวอาหรับ ซึ่งใช้แทนการสูบบุหรี่

      โดยจะเป็นการร่วมสังสรรค์กันระหว่างเพื่อนฝูงและญาติมิตร ซึ่งนอกจากชาวอาหรับแล้ว ชาวมุสลิมในบางประเทศ เช่น มาเลเซีย เยอรมัน ประเทศอิสลาม ก็นิยมสูบบารากุสูง ด้วยเช่นกัน สำหรับตัวยาที่ใช้ในการสูบบารากุนั้น จะเป็นตัวยาชนิดหนึ่งที่มาจากการนำยาเส้นมาบดผสมกับเปลือกผลไม้ แต่ละชนิด ซึ่งจะส่งผลให้เวลาสูบ นอกจากจะได้ไอของยาเส้นแล้ว ก็จะมีไอหอมอ่อน ๆ ของเปลือกผลไม้นั้นผสมอยู่ด้วย ซึ่งมีหลายชนิดด้วยกันตามแต่เปลือกผลไม้ที่ผสมเข้าไป เช่น แอปเปิ้ล  มินต์  หรือ องุ่น ฯลฯ ซึ่งตัวยาที่ใช้ในการสูบนั้นมีชื่อเรียกต่างกันในแต่ละท้องที่ เช่น ในอียิปต์และแถบเปอร์เซียจะเรียกยาสูบชนิดนี้ว่า ชิชา (shisha, shesha, shishah, sheesha, ) แต่ในปากีสถานจะเรียกว่า ฮูกาห์  (hookah, hooka, huka) นอกจากนี้ก็ยังมีชื่อเรียกอื่นอีก เช่น นาจิเล  (nargile,narghile,nargila) หรือ วอเตอร์ไพร์ (Water pipe) เป็นต้น

     การสูบบารากุนั้น สามารถทำได้โดยเอาตัวยาไปใส่ในเตาตรงกลาง เอาฟอยล์หุ้มด้านบนแล้วเจาะรู จากนั้นเอาถ่านร้อน ๆ จุดไฟย่างบนฟอยล์ และจะต้องมีการวัดน้ำด้วย จากนั้นก็ใส่ตัวยาด้านบนที่มีถ่านรองอยู่ พอเกิดควันก็ค่อยสูบผ่านท่อ โดยควันที่สูบนั้นจะลงไปผ่านน้ำก่อนที่จะเข้าปาก ซึ่งต่างจากการสูบบุหรี่ทั่วไปตรงที่บุหรี่จะสูบตัวยาเข้าไปโดยตรง แต่สำหรับการสูบบารากุจะสูบจากกลิ่นควันที่ผ่านน้ำแทน
ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าบารากุนั้น เริ่มเข้ามาในประเทศไทยสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเข้ามาพร้อมกับชาวอาหรับและชาวมุสลิมแถบมาเลเซีย ซึ่งสมัยก่อนสำหรับประเทศไทยแล้ว บารากุ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจมากนัก เพราะจากความยุ่งยากในการสูบ และตัวยาที่ใช้สูบที่ต้องนำเข้ามา จึงหายากและมีไม่มากนัก                ดังนั้นทำให้การสูบบารากุในประเทศไทยจึงได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ด้วยเพราะรูปร่างและลวดลายของเตาบารากุที่ทำออกมาได้อย่างวิจิตรงดงาม

    จึงกลายเป็นของฝากที่คนท้องถิ่นหรือคนที่ไปท่องเที่ยว ณ สถานที่นั้น ชอบซื้อติดไม้ติดมือมาฝากคนทั่วไปกันอย่างแพร่หลาย ต่อมาในปัจจุบัน การสูบบารากุเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น ด้วยความเชื่อที่ว่า การสูบบารากุให้ผลเสียน้อยกว่าการสูบบุหรี่ และมีสรรพคุณบำรุงและรักษาร่างกายต่าง ๆ มากมาย ทำให้ใน 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้เริ่มมีการนำเข้าเตาบารากุเข้ามาในประเทศไทยกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยราคาของเตาบารากุนั้นจะแตกต่างกันไปตามลวดลายและขนาด โดยมีราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน  ซึ่งตอนแรกจะมีขายเตาบารากุในสถานที่เฉพาะเท่านั้น เช่น ถนนข้าวสาร ซอยนานา หรือตามร้านอาหารของชาวอาหรับ แต่ต่อมาการสูบบารากุก็ได้รับความนิยมถึงขนาดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในผับ บาร์ ทั่วไป จนมาถึงในปัจจุบันนี้ จากที่มีการนำเข้าเตาบารากุมาเป็นจำนวนมาก ประจวบกับตัวยาสูบที่หาได้ง่ายขึ้น ทำให้ค่านิยมการสูบบารากุของกลุ่มคนที่สนใจนั้นเริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยออกไปสูบตามสถานเริงรมย์ต่าง ๆ ก็กลับกลายเป็นการซื้อเตามาไว้ในครอบครอง และหาสูบเองที่บ้าน